ชีวิตที่จมปลักอยู่กับบางอย่าง แล้วแก้ไม่ตก เดินออกมาไม่เป็น จะทำให้เราเสียเวลาในการใช้ชีวิตบนโลกนี้ไปอย่างมากมายเลย
ป่วยเมื่อไรจะหาย
อ้วนเมื่อไรจะผอม
จนเมื่อไรจะรวย
อกหักเมื่อไรจะหายดี
ถ้าเราวนๆเวียนๆแก้ไม่ตก เหมือนงูกินหางตัวเองร่ำไป จะมั่นคงได้อย่างไร
ความมั่นคงจะไปฝากไว้กับคู่ชีวิตได้ไหม
ฝากไว้กับลูกหลานได้ไหม
ยากจะคาดเดา
เราอายุยังน้อย จงฝากไว้กับตัวเอง
เรามั่นคง คู้รัก ลูก หลาน ใครๆก็อยากอยู่ด้วย
มั่นคงคืออะไร
-ไม่ทำงาน 6 เดือนมีเงินใช้ไหม
-ป่วยมีเงินรักษาหรือเปล่า หลักประกันสุขภาพเดี๋ยวนี้ทำให้คนอ่อนเปลี้ย ป่วยไม่จ่ายสักบาทก็หายได้
-แค่ค่าใช้จ่ายระหว่างป่วยที่ไม่เกิดรายได้ จ่ายมากกว่าค่ารักษาเยอะ
ถ้าสุนทรีในชีวิตคือการปล่อยตัว ปล่อยใจไปกับการตัดสินใจในทางลบ ชีวิตเราในไม่ช้า จะไม่เหลืออะไรเลย.....อาจจะเหลือไว้ให้บ้าง ไว้ให้คิดถึงชีวิต...ที่ควรจะดี
ทุกวันนี้คนเราใช้จ่ายไปตามกระแส
ไปโหลดเอ็กเซลไฟล์ของธนาคารมาใช้สิ ไฟล์การจัดทำรายรับรายจ่ายประจำเดือน แดงเถือกคือช่องของใช้ฟุ่มเฟือย
เกือบ 80% ของค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน มาจากของพวกนี้
อีก 20% เป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตที่จำเป็น
เรา เอาเวลาไปทำอะไรที่ฟุ่มเฟือยมากแล้ว เงินก็หายมากตามอีก
-ฉันจบมาออกจากบ้านกับปริญญา 1 ใบและเงินที่แม่ให้ไว้นำมาใช้ไม่กี่พันสำหรับการกินอยู่เพื่อรอเงินเดือนเดือนแรก
-ฉันจบมาพร้อมกับสุขภาพที่ไม่สู้มลพิษในอากาศ ป่วยคัดแน่นจมูก ลุกลามคออักเสบ อยู่เป็นประจำ
-จากนั้นฉันเริ่มปรับปรุงสุขภาพ การกินอยู่ ลด ละ เลิก สิ่งที่จะไปเป็นภาระเอาภูมิคุ้มกันไปซ่อมแซมรักษา เอาภูมิคุ้มกันกลับมาช่วยเสริมสร้างแทน ฉันไม่ป่วย ไม่แม้กระทั้งเป็นหวัดใน 1 ปี
จากนั้น
-จากนั้นฉันเริ่มคิดถึงการออกกำลังกาย กล้ามเนื้อฉันแข็งแรงขึ้น ฉันเห็นความแตกต่างว่า...ฉันสามารถแต่งต่างได้มากมายจากคนเดิมที่เคยเป็น...ยังแข็งแรงได้อีก
-จากนั้นฉัน...คิดถึงความมั่นคง มองกลับไปถึงการใช้จ่ายต่างๆ เพื่อ"ความมั่นคง" ตอนนั้นความมั่นคงอาจเป็นแค่ อยากหายป่าวย อยากแข็งแรง
-จากนั้นฉันเริ่มพยายามที่จะจัดการค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน
พยายามเก็บเงินแบ่ง
-ส่วนเพื่อใช้จ่ายกรณีไม่ได้ทำงาน ให้อยู่ได้หลายเดือนี่สุดถ้าว่างง่าน
-ส่วนเพื่อการส่งให้บุพการี อันนี้ส่งได้ต่อเนื่องไม่เคยขาดแม้ไม่ถึงเรื่อนหมื่น แต่ก็ส่งได้มากขึ้นทุกปี และซื้อของใช้เข้าบ้านให้ทุกเดือน
-ส่วนที่เก็บสำรองยามฉุกเฉิน...ทำเถอะอย่าอายตัวเองที่แบ่งส่วนแล้วมีส่วนละไม่มาก แต่ให้อายตัวเองที่...ไม่ได้ทำเลย
จะเข้าปีที่ 4 แล้วกับการทำงานที่สีคิ้ว
เข้าปีที่สี่ที่ทำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับบริษัท (provident fund) จะเข้าปีที่ 4 แล้ว ที่จ่ายเงินเข้าเดือนละ หนึ่งพันบาท + กับที่นายจ้างสมทบให้อีก หนึ่งพันบาท และเซ็นยินยอมให้ UOB สำเงินของเราส่วนนี้ไปลงทุนในตราสารทุนได้อย่างสูงสุด
และปีนี้ก็จะเริ่มนำเงินเดือน และเงินเก็บในบัญชีสะสมทรัพย์ธรรมดาที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเลยเพราะดอกเบี้ยตึ๋งนึง นำออกไปแปะๆ วางๆไว้กับกองทุนรวมของธนาคาร นั่งอ่านเว็บทุกครั้งที่ว่าง เพื่อเรียนรู้การจัดการ เพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเราเอง
ทุกวันนี้ข้อมูลข่าสารสามารถเข้าถึงได้ทุกคน กลางทุ่งนายังได้
สมัยก่อนคนเข้าถึงข้อมูลมีไม่มากกระจุกตัว
...เริ่มจากกองทุนตลาดเงินก่อนล่ะ เพื่อเรียนรู้การซื้อขาย การค่อยเป็น ค่อยไป ไม่มีการเรียนรู้ได้ น่าจะจำไปมากกว่าการได้ลองด้วยตัวเอง
โอกาส มีอยู่รอบตัวเรา
ถ้าเรา "ก้าวไม่พ้นตัวเราเอง" เราจะไปเริ่มต้นชีวิตที่ดี ที่อยากจะมี....ได้เมื่อไร